Skip to main content

อกุศล​จิตดวงที่ ๙​ และ​ ๑๐

จิตดวงที่ ๙ [๓๒๕] ธรรมเป็นอกุศล เป็นไฉน? อกุศลจิต สหรคตด้วยโทมนัส สัมปยุตด้วยปฏิฆะ

มีรูปเป็นอารมณ์ หรือมีเสียงเป็นอารมณ์
มีกลิ่นเป็นอารมณ์ มีรสเป็นอารมณ์
มีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์ มีธรรมเป็นอารมณ์
หรือปรารภอารมณ์ใดๆ เกิดขึ้น ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
วิตก วิจาร​ ทุกข์ เอกัคคตา
วิริยินทรีย์ สมาธินทรีย์ มนินทรีย์
โทมนัสสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
มิจฉาสังกัปปะ​ มิจฉาวายามะ มิจฉาสมาธิ
วิริยพละ สมาธิพละ อหิริกพละ อโนตตัปปพละ
โทสะ โมหะ​ พยาปาทะ อหิริกะ อโนตตัปปะ
สมถะ ปัคคาหะ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น หรือนามธรรม ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอกุศล. [๓๒๖] ผัสสะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การกระทบ กิริยาที่กระทบ กิริยาที่ถูกต้อง
ความถูกต้อง ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า​ ผัสสะ มีในสมัยนั้น.
เวทนา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความไม่สบายทางใจ ความทุกข์ทางใจ
อันเกิดแต่สัมผัสแห่งมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน ความเสวยอารมณ์ที่ไม่สบายเป็นทุกข์
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่สบายเป็นทุกข์ อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า เวทนา มีในสมัยนั้น ฯลฯ ทุกข์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความไม่สบายทางใจ ความทุกข์ทางใจ
ความเสวยอารมณ์ที่ไม่สบายเป็นทุกข์
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า ทุกข์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ โทมนัสสินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความไม่สบายทางใจ ความทุกข์ทางใจ
ความเสวยอารมณ์ที่ไม่สบายเป็นทุกข์
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่สบายเป็นทุกข์
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า โทมนัสสินทรีย์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ โทสะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การคิดประทุษร้าย กิริยาที่คิดประทุษร้าย
ความคิดประทุษร้าย การคิดปองร้าย
กิริยาที่คิดปองร้าย ความคิดปองร้าย
ความโกรธ ความแค้น ความดุร้าย ความปากร้าย
ความไม่แช่มชื่นแห่งจิต ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า โทสะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ พยาปาทะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การคิดประทุษร้าย กิริยาที่คิดประทุษร้าย
ความคิดประทุษร้าย การคิดปองร้าย
กิริยาที่คิดปองร้าย ความคิดปองร้าย ความโกรธ
ความแค้น ความดุร้าย ความปากร้าย
ความไม่แช่มชื่นแห่งจิต ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า พยาปาทะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอกุศล. [๓๒๗] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ อาหาร ๓
อินทรีย์ ๕ ฌานมีองค์ ๔ มรรคมีองค์ ๓
พละ ๔ เหตุ ๒ ผัสสะ ๑ ฯลฯ
ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑ มีในสมัยนั้น หรือ นามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอกุศล ฯลฯ [๓๒๘] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา วิตก วิจาร เอกัคคตา
วิริยินทรีย์ สมาธินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
มิจฉาสังกัปปะ​ มิจฉาวายามะ มิจฉาสมาธิ
วิริยพละ สมาธิพละ อหิริกพละ อโนตตัปปพละ
โทสะ โมหะ​ พยาปาทะ อหิริกะ อโนตตัปปะ
สมถะ ปัคคาหะ อวิกเขปะ
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
มีอยู่ในสมัยนั้น นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์
มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอกุศล. ----------------- จิตดวงที่ ๑๐ [๓๒๙] ธรรมเป็นอกุศล เป็นไฉน? อกุศลจิต สหรคตด้วยโทมนัส สัมปยุตด้วยปฏิฆะ
มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ มีธรรมเป็นอารมณ์
หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ​ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอกุศล ฯลฯ ---------------