Skip to main content

เหตุ​ ๒

[๒๙๙] โลภะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การโลภ กิริยาที่โลภ ความโลภ
การกำหนัดนัก กิริยาที่กำหนัดนัก
ความกำหนัด​ ความเพ่งเล็ง
อกุศลมูลคือโลภะ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า โลภะ มีในสมัยนั้น.
[๓๐๐] โมหะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความไม่รู้ ความไม่เห็น ความไม่ตรัสรู้
ความไม่รู้โดยสมควร ความไม่รู้ตามความเป็นจริง
ความไม่แทงตลอด ความไม่ถือเอาให้ถูกต้อง
ความไม่หยั่งลงโดยรอบคอบ ความไม่พินิจ
ความไม่พิจารณา ความไม่กระทำให้ประจักษ์
ความทรามปัญญา ความโง่เขลา ความไม่รู้ชัด
ความหลง ความลุ่มหลง ความหลงใหล อวิชชา
โอฆะคืออวิชชา โยคะคืออวิชชา อนุสัยคืออวิชชา ปริยุฏฐานคืออวิชชา
ลิ่มคืออวิชชา อกุศลมูลคือโมหะ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า โมหะ มีในสมัยนั้น. [๓๐๑] อภิชฌา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การโลภ กิริยาที่โลภ ความโลภ ความกำหนัด
กิริยาที่กำหนัด ความกำหนัดนัก​ ความเพ่งเล็ง
อกุศลมูลคือโลภะ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า อภิชฌา มีในสมัยนั้น. [๓๐๒] มิจฉาทิฏฐิ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ทิฏฐิ ความเห็นไปข้างทิฏฐิ ป่าชัฏคือทิฏฐิ
กันดารคือทิฏฐิ ความเห็นเป็นข้าศึกต่อสัมมาทิฏฐิ
ความผันแปรแห่งทิฏฐิ สัญโญชน์คือทิฏฐิ
ความยึดถือ ความยึดมั่น ความตั้งมั่น ความถือผิด ทางชั่ว ทางผิด ภาวะที่ผิด
ลัทธิเป็นบ่อเกิดแห่งความพินาศ การถือโดยวิปลาส ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า มิจฉาทิฏฐิ มีในสมัยนั้น.
[๓๐๓] อหิริกะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? กิริยาที่ไม่ละอายต่อการประพฤติทุจริต
อันเป็นสิ่งที่น่าละอาย กิริยาที่ไม่ละอายต่อการ ประกอบอกุศลบาปธรรมทั้งหลาย
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า อหิริกะ มีในสมัยนั้น. [๓๐๔] อโนตตัปปะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? กิริยาที่ไม่เกรงกลัวต่อการประพฤติทุจริต
อันเป็นสิ่งที่น่าเกรงกลัว กิริยาที่ไม่เกรงกลัวต่อ การประกอบอกุศลบาปธรรมทั้งหลาย
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า อโนตตัปปะ มีในสมัยนั้น.